×
ค้นหา

พระเจ้าทรงพอพระทัยที่จะประทานทิศทางในชีวิตให้ฉันหรือไม่?

พระเจ้าจะประทานทิศทางในชีวิตให้แก่เรา ถ้าเราทูลขอให้พระองค์ทรงทำ นี่เป็นตัวอย่างส่วนตัวของการทรงนำที่ชัดเจนของพระเจ้าในชีวิตของฉัน…

ความชื่นชมยินดียิ่งอย่างหนึ่งในชีวิตของฉันคือการได้ทำบางอย่างที่ฉันรู้ว่ามันคือความคิดของพระเจ้า

ฉันชอบดูการทรงริเริ่มของพระเจ้า นี่เป็นรูปแบบที่ฉันได้เห็น:

1. พระเจ้าทรงนำความต้องการหรือโอกาสมาสู่ความสนใจของเรา

2. จากนั้น เราถามพระองค์ว่า เราจะแก้ปัญหานั้นอย่างไร เรารอการทรงนำจากพระเจ้า

3. จากนั้น เราก็แค่ทำตาม บางครั้งเราเริ่มทำตามแม้ว่าจะไม่ทราบถึงแผนการทั้งหมดของมัน แต่ก็โอเค เราทำตามในขั้นตอนที่พระองค์ทรงให้แก่เรา

มีพระคัมภีร์หลายข้อทีเดียวที่สอนให้เราทำเช่นนั้น นี่เป็นข้อหนึ่ง:

“จิตวิญญาณของเราทั้งหลายรอคอยพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นความอุปถัมภ์และเป็นโล่ของเรา เออ จิตใจของเราทั้งหลายยินดีในพระองค์ เราวางใจในพระนามบริสุทธิ์ของพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า ขอความรักมั่นคงของพระองค์ จงอยู่เหนือข้าพระองค์ทั้งหลายตามที่ข้าพระองค์หวังใจในพระองค์” สดุดี 33:2—22

“ในวันที่ข้าพระองค์ร้องทูล พระองค์ได้ทรงตอบข้าพระองค์ ขอทรงเพิ่มกำลังจิตใจของข้าพระองค์” สดุดี 138:3

การทรงนำของพระเจ้า ความสัตย์ซื่อของพระเจ้าเมื่อเราร้องทูลต่อพระองค์เป็นส่วนสำคัญในชีวิตของฉัน พระองค์ทรงชัดเจน การทรงนำของพระองค์นั้นเห็นได้อย่างชัดแจ้ง

ฉันจะเล่าตัวอย่างต่างๆ ให้คุณฟังเรื่อยๆ ด้วยความหวังว่าจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อของคุณ นิมิตของคุณในการรอคอย พระเจ้าและได้เห็นการทรงนำของพระองค์ในชีวิตคุณ

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งของการที่พระเจ้าทรงริเริ่มทำบางอย่าง

หลายครั้งทีเดียว ที่พระเจ้าได้ทรงให้ภาระใจแก่ฉันในการเขียนจดหมายหาเพื่อนๆ หรือญาติๆที่ยังไม่ได้รู้จักกับพระเยซูและเล่าพระกิตติคุณกับพวกเขา ฉันเองก็ทำเช่นนั้นอย่างสัตย์ซื่อ ฉันไม่ห่วงอะไรมากนักกับการตอบสนองของพวกเขา

ฉันรู้แค่ว่า พระเจ้าทรงต้องการให้ฉันเขียนจดหมายหาพวกเขา โอกาสมันก็มีมาเรื่อยๆ ตัวอย่างเช่น ครั้งหนึ่งมีสถานการณ์ที่ยากเกิดขึ้นแก่ฉัน และญาติของฉันได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับ “ความเชื่อที่ยิ่งใหญ่” ของฉัน

สองสามวันต่อมา ฉันเขียนจดหมายไปเล่าให้เธอฟังว่า ความเชื่อของฉันไม่ใช่ประเด็น เราสามารถวางใจพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้ที่คู่ควรแก่การไว้วางใจ

ฉันบอกเธอว่า ถ้าฉันขอให้คุณมาเป็นผู้ตกแต่งบ้านของฉัน มันก็จะไม่ใช่เพราะฉันมีความเชื่อที่ยิ่งใหญ่ แต่เป็นเพราะว่าคุณเป็นนักตกแต่งที่ยอดเยี่ยมมาก จากนั้นฉันก็อธิบายต่อว่า เพราะเหตุใด พระเจ้าจึงเป็นผู้ที่เราไว้วางใจได้

ฉันสัตย์ซื่อในการเขียนจดหมายถึงแต่ละคน เมื่อพระเจ้าทรงนำคนเหล่านี้มาสู่ความคิดคำนึงของฉัน ฉันจะถามพระองค์ว่า “ลูกจะพูดอะไรกับคนๆนี้ดี พระองค์?”

เมื่อเห็นว่า พระเจ้าทรงจัดเตรียมสิ่งที่เหมาะสมซึ่งฉันจะเขียนแล้ว ฉันก็จะเขียน ดูเหมือนว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลาหลายปีเลยทีเดียว

จากนั้น ปีหนึ่งฉันเกิดความต้องการที่จะเขียนบทความ ซึ่งฉันจะพิมพ์ออกมาแล้วจะแจกให้กับเพื่อนบ้านและพนักงานในร้านค้าต่างๆที่ฉันไปพบ ระหว่างช่วงเทศกาลคริสตมาส ฉันรู้ว่าทุกคนยุ่งกันมากในช่วงเวลานั้น แต่ฉันก็รู้อีกว่าหลายคนไม่รู้ความจริงเกี่ยวกับคริสตมาส และสิ่งที่พระเยซูทรงปรารถนาจะมอบให้แก่เขา ดังนั้นการให้เขาอ่านบทความจากฉันจึงดูเหมือนเป็นวิธีที่ง่าย

การเขียนบางอย่าง “เพื่อสาธารณชน” เป็นเรื่องที่น่ากลัวเล็กน้อย ฉันรู้สึกว่าต้องเปิดเผยตัว ฉันสงสัยว่าตัวเองเป็นนักเขียนที่ดีพอหรือยังที่จะทำอย่างนั้น ในความขลาดกลัวของฉัน ฉันได้ใช้เวลาถึงหนึ่งปีเต็มที่จะเขียนบทความนั้นเพียงบทความเดียว

ฉันจะขัดเกลาสำนวนสักหนึ่งย่อหน้า จากนั้นก็โยนมันทิ้ง มันเป็นการทดลองของฉัน เป็นห้องทดลอง คิดดูสิว่ามันบ้าบอแค่ไหน ใช้เวลาทั้งปีที่จะเขียนแค่บทความเดียว

ในระหว่างนั้นฉันถูกขอให้ไปร่วมการประชุมขององค์กรที่ฉันทำงานอยู่ด้วย แต่การณ์กลับกลายเป็นว่าลูกสาววัย 4 ขวบของฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย และฉันก็พลาดการประชุมนั้นไปถึง 95% ของเวลาทั้งหมด

พลาดเกือบทั้งหมด ยกเว้นหนึ่งชั่วโมงสำคัญที่ลูกสาวของฉันรู้สึกดีขึ้น มากพอที่ฉันจะไปเข้าร่วมประชุมได้…

เราปีนขึ้นไปนั่งบนแถวที่นั่งชั้นล่างๆ ด้านหลังสุดของห้องประชุมขนาดใหญ่ พร้อมกับสมุดระบายสีและสีเทียนในมือ

เมื่อฉันมองไปที่คนกลุ่มใหญ่กว่า 5,000 คนที่นั่งกระจายกันทั่วไป ฉันพูดกับพระเจ้าว่า “ลูกสงสัยว่าลูกจะหาลินดาเจอไหมในท่ามกลางคนเยอะขนาดนี้? ลินดาคือนักเขียนเพื่อการประกาศที่สุดยอดมากและฉันอยากจะถามเธอบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องการเขียน

ไม่ถึงสองนาทีผ่านไป ลินดาก็เดินเข้ามาทางประตูด้านหลังของห้องประชุมในชั้นที่ต่ำกว่าฉัน แล้วเธอก็เดินมาหยุดอยู่ด้านล่างตรงที่ฉันยืนอยู่เหนือเธอ ฉันแค่โน้มตัวลงไปสะกิดที่ไหล่ของเธอ วันนั้นเรานั่งกินอาหารกลางวันด้วยกัน ซึ่งมันคือวันสุดท้ายของการประชุมนั้น

อีกครั้งที่เห็นว่า พระเจ้าทรงจัดเตรียม

เมื่อลูกทั้งสองคนของฉันอายุมากพอที่จะเข้าโรงเรียนได้แล้ว ฉันพูดกับพระเจ้าว่า “ลูกคิดว่า พระองค์ทรงต้องการให้ลูกเขียนบทความเพื่อการประกาศมากขึ้น แต่เราก็ต้องหาทางที่จะเขียนให้ได้มากกว่านี้ มากกว่าหนึ่งบทความต่อปี”

ภายในสองสามเดือนเท่านั้น บางคนได้เชิญฉันให้เป็นนักเขียนสำหรับซีรี่ส์บทความเพื่อการประกาศ ซึ่งพวกเขาผลิตขึ้นเพื่อให้เข้าถึงนักศึกษามหาวิทยาลัยทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา ในนั้นจะประกอบด้วยบทความที่ถูกตีพิมพ์ โปสเตอร์ โฆษณาในหนังสือพิมพ์ ของมหาวิทยาลัย

ต่อมาโครงการนี้ก็นำไปสู่เว็บ Everystudent.com ใน 45 ภาษา ที่เข้าถึงคนมากกว่า 150 ล้านคนในเวลานี้ แต่นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

สิ่งที่ฉันอยากให้คุณได้รับก็คือ ให้ติดตามพระเจ้าไม่ว่าพระองค์จะทรงนำคุณอย่างไร สำหรับฉัน มันเริ่มจากการเขียนจดหมายหาเพื่อนๆและญาติๆเท่านั้น “คนที่สัตย์ซื่อในของเล็กน้อย จะสัตย์ซื่อในของมากด้วย” ลูกา 16:10

ทูลขอให้พระเจ้าทรงนำคุณ ฟังสิ่งพระองค์ทรงใส่เอาไว้ในใจของคุณ ขอพระองค์ให้ทรงจัดเตรียมสิ่งที่จำเป็น จากนั้นก็ทำตาม คุณอาจจะกลัว แต่ไม่เป็นไร ให้มองที่พระองค์